Tag

ลิปสติก

Browsing

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว แต่งลุคไหนก็รอด!

การเลือกลิปสติกนอกจากผู้หญิงหลายคนจะเลือกจากแพ็กเกจที่น่ารักจนสะดุดสายตาแล้ว การ ‘ เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว ’ ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะต่อให้แพ็กเกจสวย น่ารัก ขนาดไหน แต่หากคุณเลือกสีลิปที่ไม่เข้ากับสีผิวของคุณก็อาจทำให้การแต่งหน้าวันนั้นดูไม่ปังหรือใบหน้าดูไม่สดใสได้ หากคุณอยากรู้ว่าแต่ละสีผิวต้องทาลิปสติกสีไหนถึงจะเข้ากับผิวและทำให้ใบหน้าดูสวย เปล่งปลั่งมากที่สุด วันนี้เรามีคำตอบมาให้คุณแล้ว


ทำความรู้จักกับ ‘อันเดอร์โทน’ ผิวของคุณอยู่โทนสีผิวไหน

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

อันเดอร์โทนสีผิว (Undertone) คือ สีของผิวหนังของคุณซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสีจริง ๆ ที่ดูจากเม็ดสีเมลานินภายใต้ผิวหนัง หากคุณรู้จักกับโทนสีผิวของคุณแล้วมันจะช่วยให้คุณหาเสื้อผ้าที่จะสวมใส่ รวมถึงเครื่องประดับและเฉดสีการแต่งหน้าได้ง่ายขึ้น โดยอันเดอร์โทนสีผิวจะแบ่งออกเป็น 3 โทน ดังนี้

  • สีผิว Cool Tone : โทนสีผิวนี้จะเรียกว่า ‘ผิวโทนเย็น’ หรือ ‘ผิวโทนชมพู’ ให้คุณสังเกตที่ข้อมือหากมีเส้นเลือดเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในโทนสีผิวนี้ ซึ่งเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางที่เหมาะกับคนสีผิวโทนนี้จะได้แก่ สีเขียว สีพีช สีฟ้า สีชมพู สีน้ำตาลนู้ด สีเขียวอมฟ้า สีฟ้าพาสเทล สีส้มนู้ด สีม่วง สีม่วงแดง สีแดง เป็นต้น
  • สีผิว Warm Tone : โทนสีผิววอร์มโทน คือ ‘โทนผิวร้อน’ หรือ ‘ผิวเหลือง’ หากสีเส้นเลือดของคุณออกเป็นสีเขียวหรือเขียวขี้ม้า แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในระดับนี้ คุณสามารถสวมเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางเฉดสีกลาง เช่น สีครีม สีเบจ สีส้ม น้ำตาล ส้มอมชมพู หรือเหลืองอมเขียว เป็นต้น
  • สีผิว Neutral Tone : โทนสีผิวธรรมชาติ คือโทนสีผิวกลาง ๆ ระหว่างสีชมพูและสีเหลือง ซึ่งโทนนี้เรียกได้ว่าเป็นสภาพโทนสีผิวที่แต่งตัวหรือแต่งหน้าได้ง่ายมาก ๆ เพราะสามารถสวมเสื้อผ้าหรือใช้เครื่องสำอางโทนสีไหนก็ได้ หากเส้นเลือดของคุณเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว แสดงว่าอันเดอร์โทนของคุณอยู่ในระดับนี้

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว เทคนิคง่าย ๆ รอดทุกลุค-วิธีเลือกลิปสติก

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

ผิวขาว

สีลิปสติกสำหรับคนผิวขาว ควรเลือกสีที่เหมาะสมกับสีผิวของคุณเพื่อที่จะได้ช่วยขับผิวให้ดูขาวและหน้าดูเปล่งประกาย โดยสีที่เหมาะสมสำหรับคนผิวขาวจะเป็นสีลิปสติกโทนชมพู แดง หรือส้ม ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งสีเหล่านี้ก็เรียกได้ว่าเป็นสีพื้นและเป็นไอเท็มเครื่องสำอางที่ผู้หญิงควรมี แต่สิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งของคนผิวขาวก็คือหากเลือกสีลิปสติกที่เป็นโทนอ่อนมากเกินไปอาจทำให้หน้าดูหมองและไม่สดใสได้

ผิวขาวเหลือง

ลิปสติกสำหรับคนผิวขาวเหลือง อาจเลือกเป็นประเภทของสีลิปสติกที่มีสีเข้มขึ้น เช่น น้ำตาลตุ่น สีบานเย็น หรือสีส้มอิฐ จะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวสีนี้เพราะจะทำให้ใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ผิวเข้ม 

สำหรับคนผิวเข้ม สีลิปสติกที่เหมาะสมเรียกได้ว่าแทบจะทุกเฉดสี เพราะถึงแม้ว่าคนสีผิวนี้จะมีอันเดอร์โทนสีน้ำตาลเยอะแต่ก็สามารถทาลิปสติกได้หลายเฉดสีไม่จำเป็นต้องเป็นโทนใดโทนหนึ่งเท่านั้น แต่หากคุณเลือกทาลิปสติกสีนู้ด น้ำหรือ หรือสีแดงแบบเข้ม ๆ จะช่วยขับผิวได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ได้แต่งหน้าจัดเต็ม แต่เพียงแค่ทาลิปสีเหล่านี้ก็สามารถออกจากบ้านได้แบบไม่ดูโทรมแล้ว

ผิวสองสี

ลิปสติกสำหรับคนที่มีสีผิวสองสีสามารถเลือกได้หลายเฉดสีเช่นเดียวกับคนผิวเข้ม เพราะคนโทนสีนี้สามารถแต่งหน้าให้สวยละมุนได้ง่าย แต่สำหรับสีลิปสติกที่เข้ากับคนสีผิวโทนนี้มากที่สุดอาจเลือกเป็นสีโทนอิฐอย่างโทนส้มแดง สีชมพูอมส้ม หรือสีโทนนู้ด รวมถึงสีแดงเข้มหรือแดงกุหลาบก็สามารถทาลิปสติกสีนี้ได้เช่นกัน


เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว อย่างไรให้ปลอดภัยต่อร่างกาย

เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

การใช้สีลิปสติก ช่วยทำให้ริมฝีปากของคุณดูสวยงามและใบหน้าดูสดใสขึ้น แต่อย่าลืมว่าการใช้ลิปสติกนั้นต้องปฏิบัติตามข้อแนะนำในการใช้งานและเลือกใช้ลิปสติกที่มีคุณภาพดี หรือเลือกเครื่องสำอางไทยคุณภาพดีก็ได้  เพื่อป้องกันการเกิดอาการผิดปกติหรืออาการแพ้ มาดูกันว่าจะต้องเลือกลิปสติกอย่างไรให้ปลอดภัยต่อร่างกาย

1. หลีกเลี่ยงลิปสติกที่มีน้ำหอม

การใช้ลิปสติกที่มีน้ำหอมอาจทำให้ลิปสติกมีความน่าซื้อและน่าใช้มากยิ่งขึ้น แต่อย่าลืมว่าน้ำหอมสามารถทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้น คุณควรเลือกใช้ลิปสติกที่ไม่มีน้ำหอมเพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคืองหรืออาการแพ้ โดยสามารถดูข้อมูลส่วนประกอบเกี่ยวกับน้ำหอมที่ใช้บนฉลากลิปสติก 

2. หลีกเลี่ยงลิปสติกที่ใส่สารกันเสีย

แม้ว่าสารกันเสียจะมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมายโดยการช่วยรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่บูดหรือเสียไปก่อน แต่สารกันเสียบางชนิดก็อาจส่งผลเสียได้เช่นกันหากร่างกายได้รับสารชนิดนี้เข้าไปสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งสารกันเสียที่ส่งผลเสียให้กับร่างกาย คือ Benzyl Benzoate, Parabens, BHT, Terpenes และ Phenoxyethanol  

3. ไม่ควรใช้ลิปสติกที่มีสารอันตราย

ลิปสติกบางชนิดอาจมีสารอันตรายเป็นส่วนผสมอยู่ ซึ่งสารอันตรายที่พบได้ในลิปสติกบางชนิดประกอบไปด้วย สารหนู สารตะกั่ว แอนติโมนี แคดเมียม หรือแมงกานีส หากลิปสติกมีสารเหล่านี้ผสมอยู่อาจทำให้ส่งผลต่อระบบประสาท ระบบหัวใจ หลอดเลือด รวมถึงอาจเป็นสารก่อมะเร็งได้ด้วยเช่นกัน

4. เช็ควันหมดอายุของลิปสติก

ลิปสติกหมดอายุอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ ส่วนใหญ่แล้วหลังจากการเปิดใช้งานลิปสติกทั่วไปจะสามารถใช้งานได้อีกประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าหากเป็นประเภทลิปกลอสจะสามารถใช้งานได้เพียง 1 ปีเท่านั้นจึงจะดีที่สุดต่อริมฝีปากของคุณ

5. เลือกลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีปัญหาแพ้สารปรอทหรือผู้ที่แพ้ต่อสารต่าง ๆ ได้ง่าย ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจประกอบด้วยสารพิษต่ำกว่าลิปสติกที่มีส่วนผสมจากสารเคมี แต่ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจมีปริมาณสารป้องกันเสียน้อยกว่า ซึ่งอาจทำให้ลิปสติกที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติมีความแข็งแรงน้อยกว่าหรือใช้งานได้ในระยะเวลาที่สั้นกว่าเท่านั้นเอง แต่มันก็นับว่าเป็นลิปสติกสีติดทนนานด้วยเช่นกันหากคุณเลือกที่มีคุณภาพดีสักหน่อย


เลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว หากคุณรู้ว่าโทนผิวของคุณอยู่ในระดับไหนก็จะช่วยให้คุณเลือกสีลิปออกได้อย่างตรงใจ ทำให้ทาแล้วช่วยขับใบหน้าและทำให้ใบหน้าดูสดใสไม่หมองคล้ำได้ ที่สำคัญหากคุณได้สีลิปสติกที่ตรงใจแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบรายการสารสกัดว่ามีส่วนประกอบที่อาจทำให้คุณแพ้หรือไม่ หรือตรวจสอบวันหมดอายุของลิปสติกก่อนใช้งานเพื่อให้ผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ออกมาสวยสมบูรณ์แบบและใช้งานได้ดีที่สุด


อ้างอิง : 

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี ติดทนนาน ? แนะนำ 10 แบรนด์ดังยอดนิยม

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี ติดทนนาน ? แนะนำ 10 แบรนด์ดังยอดนิยม

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี ติดทนนาน ? แนะนำ 10 แบรนด์ดังยอดนิยม ใช้ดี ลิปสติกที่ติดทนนาน สาวๆ หลายคนคงจะหาลิปสติกที่ติดทนนาน เพื่อที่จะทาแล้วสวยตลอดวัน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อลิปสติกแบบไหนดี

ซึ่งวันนี้เราก็มี 10 แบรนด์ดังยอดนิยมที่ติดทนนาน มาให้เลือกกัน จะได้เป็นตัวเลือกช่วยให้สาวๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แถมยังช่วยให้สวยขึ้นได้ด้วย มาดูดันเลยดีกว่าว่ามีแบรนด์อะไรบ้าง 

1. 4U2 – EST.HARDER 2

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ขอแนะนำรุ่น EST.HARDER 2 ลิควิดลิปแมตต์ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องติดทนนาน เนื้อแมตต์เบาทาแล้วสบายปากมาก โดดเด่นตรงที่สีชัด ติดทน กันน้ำ และไม่เลอะแมสก์ มีให้เลือกมากถึง 16 สี สายไหนก็ต้องโดนตก มีทั้งโทนนู้ด ชมพู ส้ม แดง น้ำตาล ครบทุกลุคในการแต่งหน้าเลยทีเดียว เม็ดสีแน่นมากกลบสีปากได้มิด ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ แถมยังเกลี่ยง่าย อีกทั้งยังมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงริมฝีปากไปในตัวอีกด้วย ที่สำคัญราคาแค่หลักร้อย

2. M.A.C – matte LIPSTICK

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

นี่คือแบรนด์ลิปสติกที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ลิปปังๆ ที่ทุกคนควรมีไว้ครอบครองสักแท่ง เพราะมีเนื้อลิปสติกให้เลือกอยู่มากมาย ยิ่งลิปแบบเนื้อแมตต์ละก็ยิ่งมีเยอะเข้าไปใหญ่ เพราะเป็นที่นิยม แถมยังสีที่สดชัดเจน ไม่แห้งจนเกินไป​ และที่สำคัญคือลิปตัวนี้สามารถติดทนนานได้ตลอดวันอีกด้วย จัดว่าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมสูง ทาปากกี่ทีก็สวยทุกที ราคาอยู่ที่ประมาณ 800 บาท

3. NARS – MATTE LIP PENCIL

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ลิปเครยอนเนื้อแมตต์เนียนนุ่ม เขียนง่าย เม็ดสีติดทนนานโดยไม่ทำให้ริมฝีปากลอกหรือเป็นคราบ พร้อมช่วยเติมเต็มร่องปากให้แลดูอวบอิ่มซึ่งก็มาในรูปแบบของดินสอเขียนปาก เป็นสินค้าที่เหมาะกับสาวๆ ที่ชอบลิปสติกเนื้อด้าน ทาตัวนี้จะไม่ทำให้ปากแห้ง แถมยังมีส่วนผสมของสารบำรุงริมฝีปากและวิตามินอีที่ช่วยเพิ่มความเนียนนุ่มชุ่มชื้น และมีสีลิปที่จัดจ้านมาก ที่สำคัญยังมีเฉดสีให้สาวๆ ได้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะแบบหวาน เรียบร้อย หรือแบบมั่นใจ ราคาอยู่ที่ 1,000 บาท

4. Revlon – Colorburst Matt Balm

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

เติมความชุ่มชื่นและสีสวยเปล่งประกายให้ริมฝีปากดูสดใสด้วยลิปบาล์มเนื้อกึ่งแมตต์ที่มาในรูปแบบแท่งดินสอเขียนปาก  ซึ่งก็ไม่ต้องมาเหลาให้เสียเวลา เพราะมีเนื้อสีที่เยอะมาก โดยลิปตัวนี้มีสีที่สดใส ชัดเจน และไม่แห้งจนเกินไป เวลาทาจะรู้สึกเย็นที่ปากอีกด้วย ราคาอยู่ที่ 300 บาท

5. 3CE – Lip Tint

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ลิปทินต์แบรนด์ดังจากเกาหลี ด้วยเนื้อแมตต์ที่ดูเรียบเนียนดุจกำมะหยี่ พิกเมนท์แน่น เม็ดสีแน่นคมชัด สีสวยสดใสสไตล์เกาหลี ทาแล้วสีแนบสนิทกับปากเป็นเนื้อเดียวกัน และให้สัมผัสที่ดูเรียบลื่นบางเบาเป็นธรรมชาติ แถมมีสีให้เลือกมากมายและน่าครอบครองเป็นเจ้าของมาก และเมื่อได้ลองใช้จริงหลายคนก็บอกว่าชื่นชอบมาก เพราะมีสีที่สด ชัดเจน สามารถเข้ากับผิวได้ดี เรียบเนียน และยังไม่ทำให้ปากแห้งอีกด้วย ราคาอยู่ที่ 700 บาท

6. MAYBELLINE – super stay matte ink

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ลิปจิ้มจุ่มที่ติดทนนานถึง 16 ชม. ครอบคลุมทุกโทนสี สุดชิค ทาแล้วไม่ติดมาสก์ ไม่ตกร่อง ไม่ทรานสเฟอร์ สวยไม่ซีด ใครทาก็รอด แถมนี่ยังเป็นลิปสติกที่มีราคาไม่แพงและคุณภาพเนื้อที่ดี มีเฉดสีให้เลือกหลากหลายและทุกโทนสีก็มีแต่สีเด็ดๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งสีที่ทำมาเพื่อผิวของคนเอเชีย เอาใจสาวๆ โดยเฉพาะ เราสามารถใช้ได้ในประจำวันแน่นอน ที่สำคัญนอกจากจะติดทนได้นาน และยังไม่ทำให้ปากแห้งอีกด้วย ราคาสบายใจเพียงแท่งละ 249 บาทเท่านั้น

7. NYX – MATTE LIPSTICK

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

นี่เป็นอีกตัวที่เหมาะกับคนงบน้อย เพราะมีราคาอยู่แค่ 100-300 บาท แต่มีคุณภาพ ระดับสูงเลยทีเดียว เพราะมีสีที่สดใสชัดเจน และยังมีเฉดสีให้เลือกอีกมากมาย และตัวนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ไม่ทำให้ปากแห้งจนเกินไป

8. Bobbi Brown – Luxe Matte Lip Color

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ปากสวยดูโดดเด่น ด้วยลิปสติกจากแบรนด์ BOBBI BROWN ลิปสติกที่มอบทั้งเนื้อสัมผัสแบบแมตต์เต็มขั้น ไปพร้อมๆ กับความเบาสบายที่ริมฝีปาก สามารถเกลี่ยได้อย่างเรียบลื่นด้วยเม็ดสีที่อัดแน่นและติดทนนานสูงสุดถึง 12 ชั่วโมง ด้วยเนื้อแว็กซ์คุณภาพเยี่ยมจึงเคลือบริมฝีปากได้อย่างบางเบา มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายเฉดสี ราคาประมาณ 1,500 บาท

9. ETUDE – Fixing Tint

ลิปสติกยี่ห้อไหนดีลิปทินท์ไม่เลอะติดแมสก์สัญชาติเกาหลี อีกแบรนด์ที่ขายดีโดยตัวนี้เป็นแบบลิปทินท์ที่ให้งานเนื้อแมตต์ โดยยังรักษาความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก ซึ่งแค่ปาดทีเดียวแล้วทิ้งไว้สักครู่ก็แห้งไปกับปากได้เลย ลิปสติกรุ่นนี้มีหลายสีให้เลือก ทั้งยังช่วยบำรุงความชุ่มชื้น ไม่ทำให้ริมฝีปากรู้สึกเจ็บหรือแห้งตึง พร้อมคุณสมบัติติดทนแน่น กันน้ำ และไม่ซึมเลอะแมสก์ ราคาอยู่ที่ 400-500 บาท

10. L’oreal – Rouge Signature

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

ลิปสติกตัวขายดี คุณภาพคับแน่น มีเฉดสีให้เลือกถึง 30 สี ตัวลิปสติกทาง่าย หัวแปรงมีปลายแหลมที่ช่วยให้ทาริมฝีปากได้ง่าย ลิปสติกเป็นเนื้อแมตต์ที่มีส่วนผสมของน้ำและน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีแผ่นฟิลม์บางสูตรเฉพาะที่ให้เนื้อสัมผัสบางเบา พร้อมมอบเม็ดสีสดชัดและพลังแมตต์แน่นได้ตลอดวัน เพื่อผลลัพธ์สีชัดเจน ติดทนนานตลอดวัน และเบาสบายบนริมฝีปาก ราคาแท่งละไม่ถึง 300 บาท

นี่ก็เป็นเพียง ลิปสติกยี่ห้อไหนดี 10 แบรนด์ดังยอดนิยมและติดทนนาน แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ลิปสติกแบรนด์ไหน ก็สามารถเลือกได้ตามที่ชอบกันได้เลย เพราะแบรนด์ต่างๆ ก็มีสีและประเภทของลิปให้เลือกมากมาย หรือหากคุณสนใจ เครื่องสำอางแบรนด์ไทย ก็สามารถหาซื้อได้เพราะของไทยก็ดีไม่แพ้ใครเหมือนกัน ที่สำคัญหลังทาลิปสติกแล้วอย่าลืมทำความสะอาดให้หมดจด และบำรุงฝีปากร่วมด้วย จะได้ทาริมฝีปากสวยๆ ในทุกวัน


ลิปสติกประเภทต่างๆ เลือกลิปสติกแบบไหนดีที่สุด มาดูกันดีกว่า

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

แนะนำ ลิปสติกยี่ห้อไหนดี กันไปแล้ว ลองมาดู ลิปสติกประเภทต่างๆ เลือกลิปสติกแบบไหนดีที่สุดบ้างดีกว่า สาวๆ ที่รักสวยรักงาม คงจะซื้อลิปสติกกันประจำแน่ๆ ซึ่งในปัจจุบันก็มีวางขายอยู่เยอะมาก แต่ทีนี้จะเลือกให้เข้ากับความต้องการของเรายังไงดี วันนี้จึงมีบทความที่จะมาบอกประเภทของลิปสติกว่ามีอะไรบ้าง จะได้ช่วยให้สาวๆ ตัดสินใจได้ว่าควรจะเลือกใช้แบบไหนดี 

1. ลิปสติกเนื้อครีม

โดยลิปสติกประเภทนี้ จะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมเนียนนุ่ม จะเต็มไปด้วยเม็ดสี เมื่อทาแล้วจะเห็นเป็นสีสันชัดเจน และยังไม่ทำให้ปากแห้ง สีชัดติดทนนานแน่นอน

เหมาะมากๆ สำหรับสาวๆ ที่มีริมฝีปากสวยอยู่แล้ว เพราะทาแล้วจะช่วยทำให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่เหมาะกับสาวๆ ที่มีรูปปากหนา เพราะจะไปทำให้ปากดูใหญ่ขึ้น

2. ลิปสติกเนื้อแมตต์

ลิปสติกประเภทนี้ จะมีความเข้มข้นของเนื้อสีมากที่สุด ทำให้ได้สีที่เข้มที่สุด ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อด้าน ที่ไม่มีความมันวาวเลย เมื่อทาแล้วจะแห้งไวและติดทนที่ปากได้นาน แต่เวลาทาก็อาจทำให้ริมฝีปากแห้งได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งสำหรับใครที่มีปัญหาปากแห้งทาอยู่แล้ว ตัวนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไร เพราะจะทำให้ลิปตกร่องและเกิดคราบ ดังนั้นเวลาลิปชนิดนี้ควรทาลิปบาล์มไปก่อน เพื่อสร้างความชุ่มชื้น 

3. ลิปสติกเนื้อเชียร์และเนื้อซาติน

ชนิดนี้มีลักษณะคล้ายๆ แบบเนื้อครีม แต่ก็จะมีเม็ดสีที่มีความบางเบากว่ามาก และจะไม่เกิดความมันวาวมากจนเกินไป ถ้ามองขณะที่อยู่ในแท่งอาจดูเข้ม

แต่เมื่อแล้วจะได้แบบที่มีสีอ่อนกว่า จึงเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบทาลิปสติกสีจัดจ้าน และนั่นก็ทำให้ริมฝีปากดูเนียนสวย อย่างเป็นธรรมชาติได้ดี ทั้งนี้ก็สามารถทาทับได้หลายครั้งมาก โดยที่ไม่เป็นคราบเลย

4. ลิปเนื้อฟรอสตี้

นี่เป็นลิปสติกที่มีเนื้อสีที่เข้มข้น ให้ประกายสีมุก เพราะได้มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ ดังนั้นเมื่อทาแล้วจะทำให้ริมฝีปากดูเปล่งปลั่งสดใส และยังทำให้ปากมีประกาย แต่ก็ยังไม่ทำให้ไม่มันวาวจนเกินไป ซึ่งก็เหมาะกับสาวๆ ที่มีริมฝีปากบางอยู่แล้ว นั่นก็จะทำให้ริมฝีปากดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

5. ลิปสติกเนื้อมันวาว/เนื้อชายน์

ลิปสติกเนื้อมันวาวเป็นลิปสติกที่มีส่วนผสมของกลิตเตอร์ปนอยู่นิดหน่อย ซึ่งก็จะให้ความมันวาวแบบกลอสซี่ ทำให้เมื่อทาแล้วริมฝีปากจะดูอวบอิ่ม เนียนสวย ดูเรียบเนียน และชุ่มชื้นขึ้นมาก แต่อาจไม่เหมาะทาไปข้างนอกเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยติดทน

6. ลิปสติกลิควิด

ลิควิดลิปสติก หรือ ลิปจิ้มจุ่ม ก็เป็นลิปสติกที่มาแรงสุดๆ ในตอนนี้ ซึ่งนี่ก็ลิปสติกที่มีลักษณะเป็นเนื้อที่เหลว มีเม็ดสีที่ชัดเจน เมื่อทาแล้วจะให้สีปากที่สวย เด้ง และยังติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน โดยแบบนี้มีทั้งแบบที่เป็นเนื้อแวววาว และแบบเนื้อแมตต์

7. ลิปกลอส

ลิปกลอสเป็นลิปสติกชนิดเนื้อเหลว มีความโปร่งแสง โดยบางอันอาจมีประกายมุก เมื่อทาแล้วจะให้สีที่ใส มีความแวววาว ซึ่งก็จะทำให้ริมฝีปากมีความชุ่มฉ่ำ ดูอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเราสามารถใช้ทาลงบนริมฝีปากได้แบบโดยตรง หรือจะนำไปทาทับลิปสติกสีอื่น เพื่อเพิ่มความแวววาวก็ได้เช่นกัน

8. ลิปทินต์

ทินต์เป็นลิปสติกชนิดเนื้อเหลวคล้ายลิปกลอส แต่ตัวนี้จะให้ความหนืดน้อยกว่า โดยจะใช้สำหรับช่วยการเพิ่มสีสัน ให้กับริมฝีปาก หลายคนจึงมักนิยม ทาบนริมฝีปากแค่บางๆ และใช้ลิปกลอสควบคู่ไปด้วย นั่นก็จะทำให้ริมฝีปากดูสดใสอย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน

9. ลิปไลเนอร์

ลิปไลเนอร์ หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ดินสอเขียนขอบปาก โดยตัวนี้จะใช้สำหรับการเน้นขอบ และทำให้ปากเรียวขึ้น จึงมักจะใช้เป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีลิปสติก โดยจะใช้วาดขอบนำไปก่อนจะลงลิปสติก ซึ่งก็จะช่วยให้ริมฝีปากสวย คมชัด เซ็กซี่มากขึ้น

10. ลิปบาล์มหรือลิปมัน

ลิปสติกประเภทนี้จะไม่มีสี หรือมีสีก็มีน้อย เพราะส่วนใหญ่จะใช้ในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวปากมากกว่า หรืออาจใช้ทานำไปก่อนแล้วค่อยลงลิปสติกสีที่ชอบลงไป เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวปากให้มากขึ้น 

รู้จักความแตกต่างของลิปสติกประเภทต่างๆ แล้ว ก็ไปเลือกซื้อลิปสติกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของเรากันได้แล้ว และก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสาวๆ ถึงไม่ได้มีลิปสติกเพียงแท่งเดียว เพราะนอกจากจะมีสีต่างกัน ยังมีให้เลือกอีกหลายประเภทด้วย


5 วิธีเลือกลิปสติก ให้เข้ากับปากและผิวของคุณเองมากที่สุด

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

นอกจาก ลิปสติกยี่ห้อไหนดี แล้ว เรายังมี 5 วิธีเลือกลิปสติก ให้เข้ากับปากและผิวของคุณเองมากที่สุดมาฝากกันด้วย เพราะการเลือกลิปสติกให้เข้ากับคุณก็ถือเป็นปัญหาหนึ่งของสาวๆ เลยว่าจะเลือกสีไหนดี แบบไหนดี แน่นอนว่าคนที่มีลิปในใจหรือที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้วก็คงไม่เป็นปัญหา

แต่คนที่ยังไม่รู้จะซื้อลิปสติกอะไรมาใช้ละก็ ก็คงจะงมกันไปพักนึงว่าจะซื้ออะไรดี และซื้อมาแล้วจะเหมาะกับเราไหม วันนี้จึงมี 5 วิธีเลือกลิปสติกให้เข้ากับตัวเองที่สุด มาช่วยให้สาวๆ ใช้ลิปสติกได้ดีขึ้นนั่นเอง

ลิปสติกยี่ห้อไหนดี

1. ให้เลือกสีลิปที่เราชอบ

แค่ทาลิปสติกเนื้อแมตต์ ให้เข้ากับรูปหน้าหรือเลือกสีที่ใครๆ ใช้ก็สวย แค่นั้นก็สามารถทำให้เราดูสวยขึ้นมาได้แล้ว  การเลือกลิปสติกที่ดีก็ทำให้เราไม่ต้องแต่งหน้าเลยก็ได้ ซึ่งก็มีสาวๆ หลายคนที่ไม่แต่งหน้าเลย เพียงแค่เลือกทาลิปสติกให้เข้ากับตัวเอง แค่นั้นก็ทำให้ดูสวย ดูแพงขึ้นมาได้ในทันที

2. เลือกสีแดงไปเลย

ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว แค่ทาปากแดงแค่นั้นก็ทำให้ดูสวยโฉบเฉี่ยวไปครึ่งหนึ่งแล้ว ไม่ว่าใครจะทาก็ตาม ยังไงลิปแดงก็ยังเป็นตัวแทนก็ความจัดจ้านมากที่สุด ไม่มีสีไหนที่จะมาเบียดบัลลังก์นี้ได้ ซึ่งสีแดงก็เป็นอีกสีที่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หาซื้อได้ง่ายมาก ง่ายกว่าสีอื่นหลายขุม และชนิดที่ราคาไม่แพงก็มีอยู่เยอะ และนี่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการใช้ลิปสติก

3. สีชมพูอ่อนๆ เพิ่มความหวาน

การใช้ลิปสีชมพูอ่อนๆ ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เราดูสวยได้ โดยที่แทบไม่ต้องแต่งหน้าเลยก็ได้ และสีนี้ก็จะให้ความแตกต่างไปจากสีแดงโดยสิ้นเชิง สีแดงจะเป็นสีที่ดูรุนแรง แต่สีชมพูอ่อนก็จะแสดงถึงความอ่อนโยน ความหวานให้เราได้มาก ถ้าใครเป็นสาวเปรี้ยวอยู่แล้วอยากเปลี่ยนเป็นสาวหวานละก็ ใช้สีชมพูอ่อนตัวเดียว อยู่หมัดแน่นอน

4. เลือกสีลิปสติกให้เข้ากับสีผิว

การเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิวก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะนอกจากจะทำให้ดูมีสไตล์แล้ว ยังทำให้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งใครที่ไม่รู้จะถ้าใช้แบบนี้แล้วจะเวิร์กหรือไม่ ให้ดูสาวไทยในปัจจุบันแล้วเราจะเข้าใจว่า การแต่งหน้าในปัจจุบันไม่ต้องใช้ลิปสติกสีชมพูเพียงเดียวแล้ว สีน้ำตาลก็เป็นอีกสีหนึ่งที่สามารถเพิ่มความแพงให้เราได้มากเลยทีเดียว

5. แต่งตามดาราไปเลย

ไม่ต้องคิดอะไรให้มันมากไป แต่งตามดาราไปเลย ใครจะว่ายังไงเราก็ไม่ต้องแคร์ เพราะคงไม่มีดาราคนไหนที่แต่งตัวเองให้ดูขี้เหร่แน่นอน ซึ่งการใช้ตามดาราก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลา และยังทำให้ดูสวยใสอีกด้วย สะดวกมากๆ

ลิปสติกเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้เพื่อเพิ่มรูปลักษณ์ของริมฝีปาก ทั้งมีหลายสีและหลายประเภท และสามารถทาลงบนริมฝีปากได้โดยใช้แปรงหรือนิ้วมือ เหตุผลที่สาวๆ เลือกใช้ลิปสติก นั่นก็เพราะบางคนชอบทาลิปสติกทำให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบและเซ็กซี่มากขึ้น บางคนใช้ลิปสติกเพื่อเพิ่มสีสันให้ริมฝีปาก ทำให้หน้าสดใสและทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นด้วย


อ้างอิง:

How to Apply Lipstick: 15 Tips and Tricks. https://www.byrdie.com/how-to-apply-lipstick-346598