10 วิธี คุมหน้ามัน แดดร้อนแบบนี้ต้องอ่าน ถ้าคุณไม่อยากหน้าเยิ้ม!

10 วิธี คุมหน้ามัน แดดร้อนแบบนี้ต้องอ่าน ถ้าคุณไม่อยากหน้าเยิ้ม! ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน เอกลักษณ์ของอากาศบ้านเราก็ยังคงร้อนอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าในฤดูอื่นๆ จะไม่ได้อุณหภูมิสูงสุดๆ เฉกเช่นหน้าร้อนก็ตามที แต่ก็ยังทำให้เราต้องหาเสื้อผ้าบางๆ มาสวมใส่กันอยู่เสมอ

นอกจากอาการไม่สบายตัวเพราะเหงื่อออกบ่อย หรือแสบผิวจากแสงแดดแล้ว ก็ยังมีปัญหาหน้ามันนี่แหละที่กวนใจอยู่ตลอดเวลา บรรดาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่หมั่นเคลมว่าใช้ดีใช้เด่น คุมมันกันเต็มพิกัดก็ไม่อาจให้ผลลัพธ์อย่างที่โฆษณาไว้ได้จริง จนต้องเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุด นั่นก็เพราะปัญหาหน้ามันไม่ได้แก้ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นที่เราต้องทำร่วมด้วยเพื่อเป็นวิธีช่วยลดหน้ามัน ทำให้หน้าลดการผลิตน้ำมันลงนั่นเอง

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจสาเหตุของความมันกันก่อนเลย ไม่ใช่แค่คนผิวมันเท่านั้นที่จะมีอาการหน้ามันได้ คนผิวแห้งและผิวผสมก็มีโอกาสเจอภาวะที่ว่านี้ได้เหมือนกัน เพราะผิวหน้าของเรามีต่อมไขมันจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณทีโซน คือ ช่วงกลางหน้าผากไล่ลงมาตามแนวสันจมูก ตรงนี้มีเหงื่อออกง่ายกว่าส่วนอื่นและแน่นอนว่าเกิดความมันได้ง่ายกว่าด้วย

แต่ละคนจะมีอัตราการผลิตน้ำมันที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ อารมณ์ ความเครียด อากาศ การสัมผัส ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ดังนั้น หากจะหลีกเลี่ยงความมันบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องเข้าใจผิวของตัวเองอย่างลึกซึ้ง แล้วค่อยเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะกับสภาพผิว เพราะถ้าทำไปสุ่มสี่สุ่มห้าก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไร ทั้งยังอาจเป็นการทำร้ายผิวทางอ้อมอีกด้วย และนี่คือ 10 วิธี คุมหน้ามัน ที่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับรับมือในทุกช่วงอากาศร้อน

1. ดื่มน้ำให้มากเข้าไว้

คุมหน้ามัน

วิธี คุมหน้ามัน วิธีแรกง่ายๆ เลย ลองดื่มน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิปกติ เพราะว่าน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการดูแลร่างกายและผิวพรรณ น้ำเป็นองค์ประกอบที่มีปริมาณมากที่สุด ระบบต่างๆ ในร่างกายต้องการน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงให้สามารถทำงานได้ตามปกติ เราจึงต้องดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในทุกๆ วัน 

หากเจาะประเด็นในเรื่องของความมันบนใบหน้า ก็พบว่าเซลล์ผิวจะชุ่มชื้นเปล่งปลั่งได้ก็ต่อเมื่อมีน้ำในเซลล์ หากสูญเสียน้ำไป เซลล์ผิวจะเหี่ยวลงและเริ่มมีความแห้ง ระบบร่างกายก็ต้องการที่จะรักษาสมดุลความชุ่มชื้นที่เซลล์ผิวเอาไว้ จึงเร่งผลิตน้ำมันออกมาเคลือบชั้นผิว ทำให้เราหน้ามันมากกว่าปกติ นั่นหมายความว่า ถ้าเราหมั่นเติมน้ำให้เซลล์ผิวอยู่เสมอ ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาน้อยลงนั่นเอง ดังนั้น ในระหว่างวันให้คอยจิบน้ำสะอาดตลอดเวลา โดยดื่มทีละนิดและรวมให้ได้สักวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย

2. เลือกทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน

คุมหน้ามัน

การได้รับวิตามินที่จำเป็นอย่างเพียงพอ เป็นการลดปัญหาผิวมันจากภายใน เพราะจะช่วยลดกระบวนการผลิตน้ำมันของร่างกายลงได้ วิตามินเหล่านั้นได้แก่ วิตามินเอ และวิตามินบี 2 ซึ่งสามารถหาทานได้ง่ายในอาหารกลุ่มผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชทั่วไป พร้อมกับพยายามหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอดและอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อน เนื่องจากจะยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายขับเหงื่อ ตามมาด้วยการขาดน้ำและทำให้ผิวมันตามลำดับ 

3. ใช้กระดาษซับมันเท่าที่จำเป็น

คุมหน้ามัน

หลายคนพกกระดาษซับมันติดกระเป๋าไว้ตลอดเวลา พอหน้าเริ่มมันก็หยิบขึ้นมาซับจนแห้ง ทำให้ร่างกายยิ่งต้องเร่งผลิตน้ำมันออกมาอีก เรียกว่ายิ่งซับก็ยิ่งหน้ามันมากขึ้น ไม่ได้ช่วยคุมมันอย่างที่เข้าใจ ยิ่งถ้าเป็นกระดาษประเภทที่ใส่น้ำหอมหรือแอลกอฮอล์มาด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ผิวระคายเคืองมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้ายังติดการใช้กระดาษซับมันอยู่ก็ให้ซับเฉพาะช่วงที่หน้ามันเยิ้มมากจริงๆ ก็พอ 

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีค่า PH เหมาะสม

คุมหน้ามัน

ความจริงแล้วผิวหน้าของเรามีค่า pH อยู่ในช่วงของกรดอ่อน เพราะเป็นสภาวะที่แบคทีเรียชนิดดีเจริญเติบโตได้ แต่ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าส่วนมากทำออกมาให้มีค่า pH อยู่ในช่วงเบสอ่อน มุ่งเน้นการทำความสะอาดเป็นสำคัญ หลายครั้งหลังจากล้างหน้าเราจึงรู้สึกว่าผิวแห้งตึง ซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิดความมันบนใบหน้าในเวลาต่อมา เราจึงต้องมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH เป็นกลางหรือค่อนมาทางกรดอ่อนเล็กน้อย เพื่อให้ผิวไม่ต้องปรับสมดุลค่า pH มากนัก ทั้งยังเป็นผลดีต่อชั้นผิวในระยะยาวอีกด้วย 

5. ใช้ครีมกันแดดแบบ OIL FREE

คุมหน้ามัน

ครีมกันแดดเป็นของที่ต้องใช้อย่าได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝนหรือหน้าหนาว เพราะเป็นตัวปกป้องผิวจากความเสื่อมโทรมแทบทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าหากต้องการคุมมันก็ต้องเลือกใช้ครีมของคนหน้ามัน แบบที่ไม่มีน้ำมัน อาจจะผสมรองพื้นด้วยหรือไม่ก็ได้

วิธีสังเกตง่ายๆ ก็คือ ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของน้ำมันน้อยหรือไม่มีเลย มักจะเป็นเนื้อเจลหรือแบบน้ำ มันอาจจะปกป้องผิวไม่ได้ยาวนานเท่ากับแบบครีมข้น ก็ให้ใช้วิธีทาเพิ่มระหว่างวันแทน หมายความว่าเราต้องเลือกเป็นแบบที่ทาทัพเมคอัพได้ด้วย 

6. ปรับเปลี่ยนเครื่องสำอางยกเซต

คุมหน้ามัน

จากที่เคยใช้เครื่องสำอางประเภทหน้าเงาฉ่ำวาวแบบสาวเกาหลี คงต้องเก็บเอาไว้ก่อน แล้วเปลี่ยนมาเป็นเซตที่ช่วยลดความมันแทน โดยเฉพาะในส่วนของรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่จะเป็นตัวหลักในการคุมมันบนใบหน้า

ซึ่งลุคที่น่าจะเหมาะมากสำหรับร้อนนี้ก็คงหนีไม่พ้นลุคแบบแมตต์ จะใช้รองพื้นที่เป็นชนิดแป้งผงหรือเนื้อครีมก็ย่อมได้ ขอแค่ทาแล้วติดผิวดี ไม่เยิ้ม ไม่มัน เป็นอันใช้ได้ ลองสังเกตดูคำว่า Oil Free ที่ตัวผลิตภัณฑ์แล้วทดสอบดูว่าเหมาะกับผิวของเราหรือไม่

7. ใช้โทนเนอร์เป็นประจำ

คุมหน้ามัน

โทนเนอร์คือผลิตภัณฑ์เช็ดผิวหลังจากขั้นตอนทำความสะอาดด้วยโฟมล้างหน้าหรือสบู่ต่างๆ เพื่อจัดการกับสิ่งสกปรกที่ยังตกค้างอยู่ และปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับการบำรุงต่อไป ประเด็นคือโทนเนอร์ในท้องตลาดนั้นมีหลายประเภท ซึ่งก็สามารถเลือกใช้ได้ตามใจชอบ เพียงแต่ต้องงดเว้นโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เอาไว้

เนื่องจากแอลกอฮอล์นั้นจะทำให้ผิวแห้งแบบเฉียบพลัน จึงมีการเร่งผลิตน้ำมันออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าเป็นผิวบอบบางด้วยแล้ว ก็ยิ่งเกิดการระคายเคืองมากขึ้นไปอีก แม้ว่าโทนเนอร์จะดูเหมือนไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรนัก เพราะเป็นเพียงน้ำสำหรับเช็ดหน้าธรรมดา อยู่บนผิวเพียงชั่วอึดใจเท่านั้นเอง แต่หากเลือกให้เหมาะกับผิวแล้วจะส่งเสริมการดูแลผิวอย่างดีมาก ช่วยในเรื่องการเติมน้ำให้ผิว ลดการเกิดสิว และกระชับรูขุมขนได้ด้วย

8. มาส์กหน้าลดความมัน

คุมหน้ามัน

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า การมาส์กหน้านั้นคือการบำรุงผิวขั้นสุดที่ให้ผลลัพธ์ดีกว่าการทาครีมบำรุงเพียงอย่างเดียวหลายเท่า ด้วยความเข้มข้นที่ถูกผลักผ่านชั้นผิวเข้าไปนั่นเอง แต่ส่วนมากพอนึกถึงการมาส์กหน้า เราก็จะนึกถึงการลดความหมองคล้ำ กำจัดรอยแดงจากสิว และลดจุดด่างดำจากฝ้า กระ เสียมากกว่า ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกับการมาร์คเพื่อคุมมันกันเท่าไรนัก

ซึ่งถือว่าพลาดหนักมากจริงๆ เพราะการมาส์กหน้าด้วยส่วนผสมของ AHA หรือ BHA เป็นการช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิว และกำจัดของเสียที่สะสมตกค้างอยู่บนผิว เช่น เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว เป็นต้น ทำให้ผิวหน้าสะอาดเรียบเนียนและลดอัตราการผลิตน้ำมันโดยธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีมาร์คในกลุ่มโคลนที่ดูดซับความมันอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย 

9. ออกกำลังกายขับเหงื่อเป็นประจำ

คุมหน้ามัน

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายในแทบจะทุกด้านจริงๆ อย่างการคุมมันบนใบหน้านี้ก็มีส่วนช่วยได้ไม่น้อยเลย หากเราออกกำลังกายช่วยขับเหงื่อเป็นประจำอย่างเช่น แอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน ฟุตบอล เทนนิส เป็นต้น

จะทำให้ร่างกายได้ขับของเสียออกมา ทำให้เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกายอย่างสะดวก พร้อมกับปรับสมดุลฮอร์โมนและต่อมต่างๆ ในร่างกาย จึงไม่มีการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมา เรียกว่าได้ทั้งสุขภาพดีและผิวพรรณสวยใสไปพร้อมกัน 

10. พึ่งพานวัตกรรมทางการแพทย์

คุมหน้ามัน

หากลองทำดูทุกอย่างแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าความมันจะบอกลาไป ก็คงต้องงัดไม้ตายออกมาใช้ นั่นคือพึ่งพานวัตกรรมทางการแพทย์เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนต่อมเหงื่อและต่อมไขมันแทน เดี๋ยวนี้มีสถานเสริมความงามจำนวนไม่น้อยที่ให้บริการกำจัดปัญหาเกี่ยวกับอาการเหงื่อออกมากเกินไป จนเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวัน

โดยจะเป็นการรักษาด้วยเลเซอร์แบบต่างๆ ทำหน้าที่เข้าไปลดการทำงานของต่อมเหงื่อกับต่อมไขมันใต้ผิวหนัง บางครั้งก็กำจัดต่อมเหล่านั้นทิ้งไปเลย ส่งผลให้ไม่มีเหงื่อและความมันในระยะยาว แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำการรักษาอยู่หลายครั้ง ราวๆ 3-5 ครั้งโดยเฉลี่ย


10 วิธีแก้ จมูกมัน ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำเองได้ ต้องลอง!

คุมหน้ามัน

10 วิธีแก้ จมูกมัน ง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำเองได้ ต้องลอง! จมูกอวัยวะเล็กๆ ที่มีเนื้อที่ไม่มากบนใบหน้าแต่มีความสำคัญมากๆ เพราะจมูกอยู่ตรงกึ่งกลางของใบหน้าคนเราพอดี จมูกจึงเป็นจุดเด่นที่ผู้คนมองเห็นก่อนสิ่งอื่นๆ เมื่อมองมาที่หน้าของเรา จมูกสวยก็ทำให้ใบหน้าดูสวย ดูหล่อไปทันที ในขณะเดียวกันแม้ว่าคุณอาจจะเป็นเจ้าของจมูกที่สวยได้รูปแต่กลับมีความมันระดับสูง จมูกมันต่อให้มีรูปจมูกสวยแค่ไหน จมูกโด่งแค่ไหนก็อาจจะทำให้เสียบุคลิกได้ 

คุณอาจจะมีผิวหน้าที่สวย หล่อ ดูดีเนื้อผิวละเอียด หรือสาวๆ ที่แต่งหน้ามาเป๊ะ ปัง ฉ่ำเด้ง พอจมูกมันเท่านั้นก็คะแนนติดลบและดูดรอปลงมาได้ทันที นอกจากนั้นจมูกมันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมานั่นก็คือสิวที่เกิดขึ้นบริเวณจมูก โดยเฉพาะถ้าสิวที่ขึ้นมาเป็นสิวอักเสบคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ปัญหาจมูกมันจึงเป็นปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยจริง ๆ

สาเหตุที่ทำให้ จมูกมัน ส่วนใหญ่แล้วมาจากการที่เราเป็นคนมีผิวหน้าอยู่ในสองประเภทนี้ก็คือ เป็นคนมีผิวหน้าแห้งทำให้ผิวเลยมีการขับน้ำมันออกมาหรืออาจจะเป็นคนมีผิวผสมที่มีความมันมากเฉพาะบริเวณทีโซน หากคุณเป็นคนที่มีหน้าแห้งก็ควรเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้าแห้งเพื่อลดการขับน้ำมันออกมาด้วย

สำหรับบางคนอาจเกิดปัญหาผิวหน้าที่ยุ่งยากซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่อผิวหน้าบริเวณทีโซนหรือบริเวณจมูกมันมาก แต่บริเวณโหนกแก้ม ข้างแก้ม หน้าผากและคางกลับแตกแห้งเป็นขุย จมูกมันจึงเป็นปัญหาผิวที่ต้องรีบอก้ไขไม่ควรปล่อยเอาไว้อย่างเด็ดขาด วิธีแก้ จมูกมัน ไม่ยากเลยคุณเองก็สามารถทำเองได้ตามวิธีที่นำมาฝากทั้ง 10 วิธีดังนี้! 

1. ล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์แบบอ่อนโยน

คุมหน้ามัน

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้จมูกมันเกิดจากการใช้คลีนเซอร์ล้างหน้าแบบที่มีสูตรเข้มข้นรุนแรง คลีนเซอร์ประเภทดังกล่าวจะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันหล่อเลี้ยงทั้งใบหน้าและบริเวณผิวจมูก ร่างกายจึงขับน้ำมันออกมาทดแทนที่สูญเสียไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณจมูก จึงทำให้จมูกมันมากอยู่ตลอดเวลา 

2. สครับผิวจมูก

คุมหน้ามัน

การสครับผิวก็ช่วยได้ เพราะการสครับจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่อุดตันอยู่ตรงบริเวณผิวจมูก ช่วยให้จมูกลดความมันลง แต่การสครับก็ไม่ควรทำจนบ่อยเกินไป อาจจะสครับบริเวณจมูกสักสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ 

3. ทาซันบล็อกที่จมูก

คุมหน้ามัน

ซันบล็อกที่เราทาเพื่อกันแดด สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าจมูกมันอยู่แล้วถ้าทาซันบล็อกไปก็กลัวว่าจะยิ่งทำให้จมูกเกิดความมัน แต่ในความจริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากแสงแดดที่กระทบโดนผิวจมูกก็เป็นสาเหตุหลักอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้จมูกมันและมีน้ำมันมาหล่อเลี้ยงตรงบริเวณผิวจมูกมากเกินไป

เนื่องจากเมื่อแดดกระทบแผดเผาบริเวณจมูก ผิวก็สูญเสียน้ำมันเคลือบผิวจึงผลิตน้ำมันเคลือบผิวบริเวณจมูกขึ้นมา การทาซันบล็อกช่วงบริเวณจมูกช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดและรังสีได้อย่างดีในระหว่างวัน 

4. มาส์กหน้าและจมูก

คุมหน้ามัน

การมาส์กหน้าและเน้นการมาส์กบริเวณจมูกด้วยจะดีที่สุด การมาส์กบริเวณจมูกช่วยสมานผิวบริเวณจมูกให้เกิดความสมดุลชุ่มชื่นขึ้นและยังช่วยลดขนาดรูขุมขนบริเวณจมูกให้เล็กกระชับลงได้ เมื่อรูขุมขนบริเวณจมูกเล็กลงน้ำมันก็จะออกมาได้น้อยลงและลดความมันบริเวณจมูกได้มากเช่นกัน 

5. ใช้กระดาษซับมัน

คุมหน้ามัน

กระดาษซับมันเป็นสิ่งที่คนมีจมูกมันจะต้องพกพาไว้เสมอ เมื่อจมูกมันระหว่างวันก้ให้ใช้กระดาษซับมันวางลงที่บริเวณผิวจมูกส่วนที่มัน แต่อย่าถูลงไปเพราะจะยิ่งทำให้น้ำมันออกมามากขึ้นและผิวจมูกอาจเกิดการระคายเคืองและเกิดสิวอักเสบตามมาได้ กระดาษซับมันผิวหน้านั้นก็มีหลายเกรด ให้เลือกชนิดที่เป็นเกรดที่ดี เพราะจะช่วยซับมันได้ดีและไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ที่ผิวด้วย 

6. ใช้มะนาวและน้ำตาลขัดจมูก

คุมหน้ามัน

นำน้ำมะนาวและน้ำตาลทรายมาผสมกันในอัตราส่วนที่ไม่เหนียวหนืดไม่และเหลวจนเกินไปถูวนบริเวณจมูกเน้นตรงส่วนผิวปลายจมูกจะช่วยให้ผิวบริเวณนี้สะอาดขึ้นและลดความมันระหว่างวันได้ สามารถทำได้ทุกวันถ้าสะดวก 

7. สูตรอัลมอนด์บด

คุมหน้ามัน

อีกสูตรการลดความมันของจมูกและช่วยทำให้ผิวบริเวณจมูกมีสุขภาพดีและสมดุลขึ้นก็คือ ให้ใช้เมล็ดอัลมอนด์นำมาบดละเอียด นำน้ำผึ้งมาผสมเล็กน้อย จากนั้นให้ทาไว้ตรงบริเวณจมูก ทิ้งไว้สักประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็ล้างออก จะลดความมันลงได้หากทำเป็นประจำ 

8. น้ำส้มสายชูช่วยได้

คุมหน้ามัน

นำน้ำส้มสายชูมาผสมเข้ากับน้ำเปล่าโดยให้มีสัดส่วนที่เท่าๆ กัน แล้วคนให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน นำสำลีแผ่นมาชุบแล้วแปะไว้บริเวณจมูกส่วนที่มัน ทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาทีจึงค่อยเอาออก คุณสมบัติของความเปรี้ยวและกรดจากน้ำส้มสายชูช่วยลดความมันของจมูกและช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันออกไปได้อย่างดี 

9. หลีกเลี่ยงการทาครีมและแต่งหน้าบางๆ บริเวณจมูก

คุมหน้ามัน

การทาครีมบำรุงผิวต่างๆ และการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางสารพัดชนิดเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้จมูกมันได้ง่าย เคล็ดลับก็คือให้หลีกเลี่ยงการทาครีมบำรุงผิวหน้าบริเวณจมูกหรือทาแต่น้อย การแต่งหน้าให้เลือกแต่งบริเวณจมูกแต่เพียงบางๆ จะช่วยลดจมูกมันระหว่างวันไปได้มาก 

10. ดูแลการรับประทานอาหาร

คุมหน้ามัน

การรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่มีผิวจมูกมัน อาหารที่มีสรสจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อผิวให้มันขึ้น รวมไปถึงผิวบริเวณจมูกด้วย หากลดการรับประทานอาหารรสจัดและลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงก็จะมีส่วนช่วยลดความมันบริเวณจมูกได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้คือวิธีแก้ หน้ามัน และ จมูกมัน ที่เป็นปัญหากวนใจสำหรับหลายๆ คนและเป็นปัญหาเส้นผมบังภูเขาที่เราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเราเอง ที่สำคัญอย่าลืมรักษาความสะอาดของผิวหน้า และบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้


อ้างอิง

https://www.acseine.in.th/campaign/blog/6/ปัญหาผิวมันเกิดจากอะไร%3F

https://www.pobpad.com/หน้ามัน-กับการแก้ปัญหาใ

Author